วันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ผู้เสียหาย ผู้มีอำนาจจัดการแทน 2

ข้อ ๒. คำถาม  นายแดงบุกรุกเข้าไปในที่ดินของนายดำคืนวันที่ ๑ มกราคม และอยู่ในที่ดินดังกล่าวตลอดมา ต่อมาวันที่ ๑ มีนาคม นายดำจดทะเบียนขายที่ดินให้นายขาว โดยนายดำได้รับชำระราคาค่าที่ดินตามราคาตลาด ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยนายแดงก็ยังอยู่ในที่ดินดังกล่าวขณะซื้อขายที่ดิน ต่อมาพนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องนายแดงเป็นจำเลยว่ากระทำความผิดฐานบุกรุกเวลากลางคืน ระหว่างพิจารณานายดำและนายขาวยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการ
                ให้วินิจฉัยว่า ศาลจะสั่งคำร้องของนายดำและนายขาวอย่างไร
คำตอบ ขณะที่นายแดงบุกรุกที่ดินเป็นของนายดำ นายดำเป็นเจ้าของที่ดินซึ่งเป็นผู้ได้รับความเสียหายจากการกระทำของนายแดงนายดำจึงมีฐานะเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒(๔) การที่ต่อมานายดำจดทะเบียนขายที่ดินให้นายขาว แม้นายดำจะได้รับชำระราคาค่าที่ดินดังกล่าวจากนายขาวก็ตาม ก็เป็นสิทธิตามสัญญาซื้อขาย หามีผลกระทบกระเทือนสิทธิของนายดำซึ่งมีอยู่ก่อนแล้วฐานะผู้เสียหายที่ดำเนินการฟ้องร้องนาย แดงในความผิดฐานบุกรุกแต่อย่างใดไม่ ฐานะการเป็นผู้เสียหายของนายดำจึงมิได้สิ้นไป (เทียบคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๖๒๐/๒๕๔๖) นายดำยังมีอำนาจยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการ
                นายแดงกระทำความผิดฐานบุกรุกเมื่อคืนวันที่ ๑ มกราคม แม้นายแดงจะยังอยู่ในที่ดินต่อมาจนถึงวันที่นายขาวรับโอนที่ดินเมื่อวันที่ ๑ มีนาคม แต่นายแดงยังมิได้กระทำความผิดฐานบุกรุกที่ดินของนายขาวขึ้นมาอีกกรรมหนึ่ง เพราะความผิดฐานบุกรุกเป็นความผิดสำเร็จตั้งแต่วันที่นายแดง “เข้าไป” ในที่ดินเมื่อวันที่ ๑ มกราคม ไม่ใช่ความผิดต่อเนื่อง การที่นายแดงอยู่ในที่ดินต่อมาเป็นเพียงผลของการบุกรุก เมื่อไม่มีการบุกรุกขึ้นมาใหม่ นายขาวจึงไม่ใช่ผู้เสียหายจากการกระทำผิดฐานบุกรุกของนายแดง นายขาวไม่อาจยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการได้(เทียบเคียงคำพิพากษาฎีกาที่ ๒๘๘๖/๒๕๓๙) ศาลต้องยกคำร้องของนายขาว
               

คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๖๒๐/๒๕๔๖  ขณะธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คพิพาททั้งสามฉบับนั้น บริษัทโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คและเป็นผู้ได้รับความเสียหายจากการกระทำของจำเลยทั้งสองจึงมีฐานะเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒(๔) และการที่โจทก์โอนขายทรัพย์สิน ตลอดจนภาระผูกพันของจำเลลยทั้งสองไปให้กองทุนรวมแกรมม่าแคปปิตอลดำเนินการบริหารจัดการนั้น ก็เป็นไปตามพ.ร.ก.ปฏิรูปสถาบันการเงินฯ มาตรา ๒๗ หามีผลกระทบกระเทือนสิทธิของโจทก์ซึ่งมีอยู่ก่อนแล้วในฐานะผู้เสียหายที่ดำเนินการฟ้องร้อง จำเลยทั้งสองในความผิดทางอาญา ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ แต่อย่างใดไม่ แม้ต่อมาภายหลังโจทก์จะได้รับชำระหนี้ตามเช็คพิพาทดังกล่าวจากกองทุนรวมแกรมม่าแคปปิตอลก็ตาม ก็ไม่ทำให้ฐานะการเป็นผู้เสียหายของโจทก์ในคดีอาญาสิ้นไปเพราะกองทุนรวมแกรมม่าแคปปิตอลมิได้ชำระหนี้แทนจำเลยทั้งสอง โจทก์จึงยังคงมีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาฎีกาที่ ๒๘๘๖/๒๕๓๙ ความผิดฐานบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ตาม ป.อ.มาตรา ๓๖๒ มี ๒ ตอน ตอนหนึ่งเข้าไปเพื่อถือการครอบครอง อีกตอนหนึ่งคือเข้าไปเพื่อรบกวนการครอบครองของเขา จำเลยเข้าไปครอบครองที่พิพาทของโจทก์ร่วมตลอดเวลาต่อๆ มานั้น การกระทำอันหนึ่งคือการเข้าไปแม้จะล้อมรั้วและครอบครองตลอดมาก็เป็นการกระทำอีกขั้นหนึ่ง การกระทำส่วนหลังเป็นการกระทำผิดลำพังแต่เพียงประการเดียวไม่ได้ เมื่อการเข้าไปอันเป็นการกระทำส่วนแรกยุติเสร็จสิ้นลงแล้ว การกระดทำในส่วนหลังต่อๆ มาก็ไม่เป็นความผิดต่อเนื่องติดต่อกันตลอดเวลา เพราะความผิดฐานบุกรุกได้เกิดขึ้นสำเร็จแล้วเมื่อจำเลยเข้าไปกรระทำการดังกล่าว  ส่วนการครอบครองที่ดินต่อมาเป็นเพียงผลจากการบุกรุก การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา ๓๖๕
ข้อสังเกตุ คดีนี้จำเลยเข้าไปในที่ดินเวลากลางวันและครอบครองที่ดินต่อเนื่องมา ทั้งกลางวันและกลางคืน โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษฐานบุกรุกเวลากลางคืน ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการครอบครองต่อมาเป็นเพียงผลของการบุกรุก แม้ครอบครองเวลากลางคืนด้วยก็ไม่ผิดฐานบุกรุกเวลากลางคืน ผิดเพียงฐานบุกรุกเวลากลางวัน เพราะความผิดฐานบุกรุกไม่ใช่ความผิดต่อเนื่อง ประเด็นที่นำมาตอบคำถามข้อนี้ สำหรับคำถามข้อนี้หากไม่ได้ถามเรื่องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการแต่เปลี่ยนข้อเท็จจริง เป็นบุกรุกเวลากลางวันและครอบครองต่อเนื่องกันมาทั้งกลางวันและกลางคืนแต่พนักงานอัยการฟด้องข้อหาบุกรุกเวลากลางคืน ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าบุกรุกเวลากลางวัน ก็ลงทาได้ตามมาตรา ๑๙๒ แต่ถ้าข้อเท็จจริงไม่ปรากฎว่าร้องทุกข์เมื่อใด และไม่มีเหตุฉกรรจ์ ก็ต้องยกฟ้องเพราะความผิดฐานบุกรุกไม่มีการร้องทุกข์ภายใน ๓ เดือน พนักงานสอบสวนก็ไม่มีอำนาจสอบสวน พนักงานอัยการจึงไม่มีอำนนาจฟ้อง เพราะไม่มีการสอบสวนมาก่อน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น